​“พาณิชย์” เผยเปรูเจ้าภาพเอเปกปีนี้ เน้นขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก

img

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการว่าด้วยการค้าและการลงทุน (CTI) ครั้งที่ 1 ปี 67 ในกรอบเอเปก เผยเปรูในฐานะเจ้าภาพ เสนอขับเคลื่อนเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก เป็นผลลัพธ์ที่สำคัญในปีนี้ และยังเน้นประเด็นความเท่าเทียมทางเพศ ความรับผิดชอบต่อสังคม การค้าดิจิทัล สิ่งแวดล้อม และแรงงาน
         
น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยการค้าและการลงทุน (Committee on Trade and Investment : CTI) ปี 2567 ครั้งที่ 1 ในช่วงการประชุมภายใต้กรอบเอเปก ระหว่างวันที่ 4-5 มี.ค.2567 ที่ผ่านมา ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู เพื่อติดตามประเด็นด้านการค้าและการลงทุนที่จะเป็นประโยชน์ต่อไทยในการขับเคลื่อนการค้าภายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยเปรูจะผลักดันการขับเคลื่อนวาระเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTA เอเชีย-แปซิฟิก) เพื่อเป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่สำคัญของเอเปกในปีนี้ และเปรูยังเสนอให้หามุมมองใหม่ในการขับเคลื่อนวาระดังกล่าว ผ่านการจัดการหารือ CTI Dialogue ตลอดทั้งปี

โดยการหารือครั้งนี้ หน่วยสนับสนุนด้านนโยบายของเอเปก (Policy Support Unit : PSU) ได้นำเสนอข้อมูลการขับเคลื่อนวาระ FTA เอเชีย-แปซิฟิก ของเอเปกที่ผ่านมา อาทิ การหารือประเด็นทางการค้ายุคใหม่ที่สมาชิกให้ความสำคัญ และการดำเนินโครงการต่าง ๆ ภายใต้ CTI เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค เช่น ความเท่าเทียมทางเพศ ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรธุรกิจ การค้าดิจิทัล สิ่งแวดล้อม และแรงงาน เป็นต้น



ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า เอเปกมีการดำเนินงานเป็นอย่างดี มีกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลและโครงการเสริมสร้างขีดความสามารถ เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนวาระดังกล่าว ซึ่งเป็นการดำเนินการสืบเนื่องจากการเป็นเจ้าภาพเอเปกของไทย เมื่อปี 2565 ที่ได้ริเริ่มการหารือวาระ FTA เอเชีย-แปซิฟิก
         
เปรูในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกในปีนี้ ได้กำหนดหัวข้อหลัก (Theme) “เสริมสร้าง. ครอบคลุม. เติบโต” หรือ “EMPOWER. INCLUDE. GROW.” โดยมีประเด็นสำคัญ (Priorities) ด้านการค้าและการลงทุนคือ “การค้าและการลงทุนสำหรับการเจริญเติบโตที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกัน” (Trade and investment for inclusive and interconnected growth) ซึ่งสอดประสานกับหลักการซานฟรานซิสโกว่าด้วยการบูรณาการความครอบคลุมและความยั่งยืนในนโยบายการค้า การลงทุน (Integrating Inclusivity and Sustainability into Trade and Investment Policy) ที่เอเปกให้การรับรองในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกปีก่อนหน้านี้
         
สำหรับในปี 2566 การค้าของไทยกับกลุ่มเศรษฐกิจเอเปก มีมูลค่า 403,902.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70.33 ของการค้ารวมของไทย โดยไทยส่งออกไปเอเปค มูลค่า 201,746.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเอเปค มูลค่า 202,156.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ติดตามข่าวสารแบบฉับไว
ส่งตรงถึงมือถือ คลิกเลย
ติดตามข่าวสารผ่าน Twitter
กดคลิก Follow ด้านล่าง